“วัคซีนจำเป็น” สำหรับผู้หญิงวางแผนก่อนตั้งครรภ์ และขณะตั้งครรภ์
ศูนย์ : ศูนย์สุขภาพสตรี
บทความโดย : พญ. ศิริวิภา พุ่มจิตร
ช่วงเวลาตั้งครรภ์ไม่เพียงต้องให้ความสำคัญในการดูแลคุณแม่.. แต่ยังต้องระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยของทารกในครรภ์ “วัคซีน” จะเป็นเหมือนการสร้างภูมิคุ้มกัน และความแข็งแรงให้กับคุณแม่และลูกน้อย ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ โดยปกติแม่ตั้งครรภ์ทุกรายควรได้รับวัคซีนตั้งแต่ก่อนตั่งครรภ์ แต่มีบางรายที่ไม่เคยรับวัคซีนมาก่อนที่จะตั้งครรภ์ ทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะติดโรคได้ สำหรับวัคซีนสำคัญที่ควรฉีดเพื่อจะทำให้คุณแม่แข็งแรงและทำให้ลูกที่อยู่ในครรภ์ปลอดภัยจากโรคที่มีความเสี่ยงจะเกิดขึ้นได้ มีดังนี้
สารบัญ
วัคซีนก่อนการตั้งครรภ์
วัคซีนก่อนการตั้งครรภ์ วัคซีนที่ควรฉีดให้พร้อมก่อนการตั้งครรภ์ ได้แก่
- วัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบบี การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี อาจทำให้เกิดโรคตับอักเสบเฉียบพลัน และอาจเกิดตับวายได้ หรือบางคนอาจกลายเป็นพาหะของโรค เชื้อนี้สามารถติดจากแม่สู่ลูกได้ในขณะตั้งครรภ์ ดังนั้นการตรวจเลือดสามารถทราบว่าเป็นพาหะของเชื้อโรคนี้หรือไม่ หรือดูว่ามีภูมิคุ้มกันหรือยัง เพื่อพิจารณาให้รับวัคซีนไวรัสตับอักเสบบีก่อนการตั้งครรภ์ โดยฉีดจำนวน 3 เข็ม มีระยะเวลาการฉีด คือ ฉีดเข็มที่ 1 แล้วอีก 1 เดือนฉีดเข็มที่ 2 จากนั้นอีก 6 เดือนจึงฉีดเข็มที่ 3
- วัคซีนป้องกันโรคหัดเยอรมัน ควรได้รับวัคซีนนี้อย่างน้อยก่อนตั้งครรภ์ 3 เดือน โดยฉีดเพียง 1 เข็ม เพราะหากเกิดการติดเชื้อหัดเยอรมันในระหว่างตั้งครรภ์ อาจส่งผลให้ลูกมีความผิดปกติ อวัยวะพิการ เช่น หัวใจ สมอง หู ตา แขนและขาได้
วัคซีนขณะตั้งครรภ์
วัคซีนที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรได้รับช่วงที่ตั้งครรภ์ เพื่อป้องกันอันตรายของมารดาและทารก ประกอบด้วย
- วัคซีนป้องกันโรคคอตีบ บาดทะยัก และไอกรน (Tdap) หญิงตั้งครรภ์ควรได้รับวัคซีนป้องกันคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน ในช่วงอายุครรภ์ 27 – 36 สัปดาห์ หากเคยได้รับวัคซีนป้องกันบาดทะยัก ครบถ้วนในระยะไม่เกิน 10 ปี เนื่องจากโรคคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน เป็นโรคติดเชื้อที่แพร่กระจายได้ง่าย โดยเฉพาะไอกรนที่ทารกมักติดเชื้อมาจากมารดาหรือคนในครอบครัว ทั้งนี้หากคุณแม่มีประวัติได้รับวัคซีนบาดทะยักไม่ครบถ้วน แพทย์จะพิจารณาฉีดวัคซีนบาดทะยักเข็มเดี่ยวเพิ่มเติม
- วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ หญิงตั้งครรภ์ทุกคนควรได้รับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 1 เข็ม ในการตั้งครรภ์แต่ละครั้ง และแนะนำที่อายุครรภ์ตั้งแต่ 14 สัปดาห์เป็นต้นไป เนื่องจากไข้หวัดใหญ่มีการเปลี่ยนสายพันธุ์อย่างสม่ำเสมอทุกปี และก่อให้เกิดอาการหรือภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงมากกว่าในคุณแม่ตั้งครรภ์ อาจทำให้ปอดอักเสบ ภาวะเยื่อบุหัวใจอักเสบได้
- วัคซีนโควิด19 (Covid-19) ปัจจุบันแนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด19 ในหญิงตั้งครรภ์ทุกคน โดยแนะนำให้ฉีดที่อายุครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป เนื่องจากการติดเชื้อไวรัสโควิด19 ทำให้เกิดอาการทางระบบทางเดินหายใจ ซึ่งรุนแรงกว่าในผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นที่เหมาะสม นอกจากนี้หญิงตั้งครรภ์เป้นกลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดอาการรุนแรงกว่าคนทั่วไป รวมถึงอาจส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ และเพิ่มความเสี่ยงในการคลอดก่อนกำหนด
วัคซีนที่ห้ามฉีดระหว่างตั้งครรภ์
ในระหว่างการตั้งครรภ์ห้ามฉีดวัคซีนเชื้อเป็น ได้แก่
- วัคซีนป้องกันโรคสุกใส (Varicella)
- วัคซีนงูสวัด (Zoster)
- วัคซีนเอชพีวี (HPV)
- วัคซีน คางทูม หัด หัดเยอรมัน (Measles, mumps, rubella)
โดยหากต้องการฉีดวัคซีน หัดเยอรมัน (Rubella vaccine) นั้น แนะนำให้ฉีดก่อนตั้งครรภ์มากกว่า 1 เดือนหรือฉีดหลังคลอดทันที 1 เข็ม และฉีดเข็มที่สองห่างจากเข็มแรกหนึ่งเดือน
ปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพแบบออนไลน์
ไม่เสียค่าใช้จ่าย
บทความทางการแพทย์ศูนย์สุขภาพสตรี